ถ้าจะซื้อบ้านควรจะรู้ ! 10 ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสีย ในตอนจะซื้อ บ้าน หรือ คอนโด
บางคนก็อาจจะยังไม่เข้าใจว่าในเรื่องการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม เนื่องจากพอเห็นราคาบ้านหรือคอนโดเป็นตัวเลขที่ตัวเองพอจะมีเงิน ก็คิดว่าจะเทหน้าตักทั้งหมดเพื่อให้ได้ครอบครอง “บ้าน หรือ คอนโดมิเนียม” นั้นๆ
ทาวน์เฮ้าส์ให้เช่า
ซึ่งในความเป็นจริงนั้นแล้วราคาบ้านที่เห็นยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายที่จะตามมาอีกเพียบ ดังนั้นก่อนคิดจะซื้อที่อยู่อาศัยต้องคิดให้รอบคอบ และควรมีเงินเผื่อไว้อีกจำนวนหนึ่งเลยทีเดียว ที่ว่าแต่ค่าใช้จ่ายที่งอกมาจากราคาบ้านหรือคอนโดที่แท้จริงมีอะไรบ้าง เราจะมา สรุปมาให้ทราบกันสั้น ๆ ดังต่อไปนี้
1. เงินที่ใช้ในการมัดจำ เป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้ต้องการซื้อบ้านจ่ายไว้กับเจ้าของบ้าน หรือนิติบุคคลคอนโดมิเนียมเพื่อที่จะยืนยันว่าตนเองต้องการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมแห่งนี้อย่างแน่นอน ซึ่งบางครั้งจะเรียกว่าเงินที่จอง สัดส่วนที่ผู้ต้องการซื้อบ้านจ่ายเพื่อจองไว้ก็มีมูลค่าเป็นหลักหมื่น ในส่วนค่าใช้จ่ายตรงนี้ผู้ซื้อต้องระมัดระวังเวลาทำสัญญา เนื่องจากในบางครั้งจ่ายเงินมัดจำหรือเงินจองไปแล้ว แต่อาจมีเหตุให้ไม่ได้บ้านหรือคอนโดมิเนียมที่เราต้องการ ซึ่งผู้ซื้อต้องได้รับเงินมัดจำคืนทั้งหมด
2. ค่าใช้จ่ายในการทำสัญญา ซึ่งหลังจากเราได้วางเงินมัดจำไปแล้วประมาณ 1-2 อาทิตย์ผู้ซื้อกับผู้ขายอาจมีการตกลงทำสัญญาซื้อขายร่วมกัน โดยค่าใช้จ่ายในส่วนของตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งผู้ซื้อควรเตรียมเงินไว้เป็นหลักแสน สิ่งที่ผู้ซื้อต้องพิจารณาประกอบด้วยคือระหว่างช่วงรอในการทำสัญญาจะซื้อจะขายควรตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เพื่อไม่ให้เป็นภาระที่จะติดตามเรามาได้ในภายหลัง
3. เงินที่ใช้ดาวน์บ้าน และ คอนโด เป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้ซื้อจะต้องผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ หลังจากการทำสัญญาซื้อขายแล้ว ซึ่งจำนวนค่าใช้จ่ายก็จะเป็นไปตามที่โครงการนั้นๆได้ กำหนด สำหรับคอนโดมิเนียมมักจะเริ่มดาวน์ไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของราคาจริง ส่วนบ้านนั้นอาจจะลงมาที่ 5 เปอร์เซ็นต์ของราคาจริง
เช่าคอนโด
4. ค่าประเมินราคา บ้านและคอนโด เป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายต่อครั้ง และจ่ายในวันที่ไปทำเรื่องยื่นกู้ให้กับธนาคารที่เรายื่นกู้ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000-3,000 บาท ต่อการประเมินหนึ่งครั้งนั้น ยิ่งยื่นกู้หลายธนาคารก็ต้องจ่ายมาก ค่าประเมินที่ได้จ่ายไปแล้ว ถ้ากรณีที่กู้ไม่ผ่านหรือไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ก็ไม่มีการคืนเงิน
5. ค่าจดจำนอง หรือ ค่าจดจำนองอสังหา (กรณีจำนองกับสถาบันการเงิน) = 1% ของมูลค่าที่จำนอง (จำนวนที่กู้ทั้งหมด)
6. ค่าธรรมเนียมในการโอนอสังหา จ่ายเมื่อโอนกรรมสิทธิ์ อัตราปกติคือ 2% ของราคาประเมินกรมที่ดิน ถ้าเป็นการโอนที่มีคนอำนวยความสะดวกให้เช่น ในการโอนบ้านแล้วติดจำนองแบงค์ แบงค์จะอำนวยความสะดวกเคลียร์หน้าเสื่อให้ ค่าโอนจึงมักคิดจากราคาประเมิน แต่ถ้าโอนกันเอง จะโดนเจ้าหน้าที่ถามราคาซื้อขายของอสังหา นั้นถ้าตอบแพงราคาประเมินก็จะโดนค่าธรรมเนียมจากราคาซื้อขาย ถ้าตอบถูกกว่าราคาประเมินก็จะได้ราคาประเมิน
ทาวน์เฮ้าส์ให้เช่า
7. เงินกองทุนส่วนกลาง กรณีเป็นคอนโดมิเนียม และหมู่บ้าน มีค่าใช้จ่าย 2 ประเภท คือ ค่าใช้จ่ายส่วนกลางเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือนคิดตามขนาดพื้นที่บ้านหรือห้องชุด โดยจะเก็บล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ และ เงินกองทุนส่วนกลาง โดยจะชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งจำนวนที่เรียกเก็บอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตามที่นิติบุคคลกำหนด
8. ค่าประกันอัคคีภัย โดยปกติแล้ว ถ้าเราซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมโดยการกู้ยืมจะต้องทำประกันอัคคีภัยคู่มาด้วยเสมอ สำหรับการจ่ายเบี้ยประกันนั้นก็จะต้องจ่ายพร้อมเงินผ่อนชำระงวดแรก และเก็บทุกๆ 3 ปี อัตราเบี้ยประกันมักจะถูกกำหนดไว้โดยกรมการประกันภัย แต่อาจได้รับส่วนลดจากธนาคารที่กู้ยืม
9. ค่าประกันมิเตอร์ เป็นค่าใช้จ่ายติดตั้งมิเตอร์น้ำและไฟ ที่ทางโครงการนั้นจะจ่ายให้ล่วงหน้าแล้วนั้นเรียกเก็บภายหลังตามอัตราที่ทางราชการกำหนด
10. ค่าประกันภัยอาคาร สำหรับผู้ที่จะทำการซื้อคอนโดอยู่ ผู้ซื้อต้องร่วมรับผิดชอบค่าประกันนี้ด้วย โดยคำนวณตามสัดส่วนพื้นที่ห้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.urban.in.th/content/article-58.html